Thanisa Treepaisanphudee 55010113060
ธนิศา ตรีไศาลภักดี ALC
ธนิศา ตรีไศาลภักดี ALC
บทที่ 2 บทบาทสารสนเทศกับสังคม
1. บทนำ
ในปลายศตวรรษที่20โลกเราเข้าสู่การปฏิวัติด้านเทคโนโลยีสารสนเทศได้มีการนำทรัพยากรมาใช้อย่างกว้างขวางจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงกระบวนการดำเนินเป็นยุคเริ่มต้นในข้อมลูข่าวสารทุกองค์กรนำกลไกการบริหารจัดการอย่างมีคุณภาพการนำเสนอข้อมูลได้หลายรูปแบบเพื่อนควบคุมการปฏิบัติงานมีการสือสารและใช้คอมพิวเตอร์ในการตัดสินใจ
ช่วงต้นศตวรรษ21แนวโน้นองค์กรต่างๆได้เริ่มมีการปรับฐานการลงทุนทางภาคธุรกจิและด้านอุตสหกรรมและได้ปรับกระบวนการของภาครัฐบนฐานบนความรู้เทคโนโลยีและการสือสารทั้งหมดทั่วโลกได้มองเห็นความสำคัญการสร้างฐานความรู้ในสังคมท่ามกลางกระแสโลกาภิวัฒน์และได้ส่งเสริมนวัตกรรมเป็นของตนเองเพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันบนเวทีโลกเตรียมพร้อมก้าวกระโดดในกระบวนการพัฒนา
ปฏิวัติด้านเทคโนโลยีสารสนเทศนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่สังคมได้เข้ามามีบทบาทต่อการดำรงชีวิตและวิถีชีวิตของมนุษย์ในสังคมทางด้านความเป็นอยู่ด้านสื่อสาร การทำงาน การคมนาคมขนส่ง ธุรกิจ การแพทย์ วัฒนธรรม การศึกษา
ในปัจจุบันวัตกรรมใหม่ๆที่เกิดขึ้นทำให้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นแต่มีขนาดเล็กลงหรือเรียกว่า นาโนเทคโนโลยีทำการสื่อสารข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์เป็นไปอย่างฉับพลันผ่านทางด่วนสารสนเทศ เช่นเครือข่ายอินเตอร์เน็ตทีไร้พรมแดนทีทุกคนทั่วโลกใช้กันโดยอาจจะได้ว่าเป็นสังคมอิเล็กทรอนิกส์
2. เทคโนโลยีสารสนเทศกับการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบัน
ในภาวะปัจจุบันสารสนเทศได้กลายเป็นปัจจัยพื้นฐานทีห้าที่เพิ่มมาจากปัจจัย4ประการทีคนเราขาดไม่ได้ในการดำรงชีวิตประจำวันไม่ว่าจะประกอบธุรกจิ การค้าการผลิตสินค้าหรือทุกอย่างต้องใช้สารสนเทศทั้งนั้นดังนั้นในยุคสังคมสารสนเทศแห่งศตวรรษ21สารสนเทศจะกลายเป็นทรัพยากรทีสำคัญทีสุดเหนือสิ่งใดสารสนเทศกำลังจะกลายเป็นฐานแห่งอำนาจอันแท้จริงในอนาคต
ซึ่งกระบวนการผลิต การเก็บ และถ่ายทอดสารสนเทศ อาศัยการใช้วัสดุและพลังงานน้อยมาก และมีผลเสียต่อภาวะแวดล้อมหรือมีเพียงเล็กน้อย และไม่มีผลเสียต่อภาวะแวดล้อมหรือมีเพียงเล็กน้อยมาก ยิ่งกว่านั้นสารสนเทศจะสามารถช่วยกิจกรรมการผลิตและบริการต่างๆเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เช่นสามารถช่วยให้การผลิตทางอุตสหกรรมใช้วัตถุดิบ และพลังงานน้อยลง มีมลภาวะน้อยลง แต่สินค้ามีคุณภาพดีขี้นคงทนมากขึ้น ปัญหาวิกฤติทางจราจรในบางด้านก้อสามารถผ่อนปรนได้ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่นในการช่วยติดต่อสื่อสารทางธุรกิจต่างๆโดยไม่จำเป็นต้องเดินทางด้วยตนเองดังเช่นแต่ก่อน จึงอาจจะกล่าวได้ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศจะมีส่วนอย่างมาก ในการนำสังคม สู่วิวัฒนาการอีดระดับหนึ่ง ที่อาจเรียกได้ว่าเป็น สังคมสารสนเทศ อันเป็นสังคมทีพึงปรารถนาละยั่งยืนยิ่งขึ้น
นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าสังคมต่างๆในโลก ต่างจะต้องก้าวสู้สังคมสารสนเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่เร็วก็ช้า และนั่นหมายความว่าสังคมจะต้องพึ่งพาเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างแน่นอน ไม่ว่าเราจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม ไม่แค่เพียงสร้างขีดความสามารถในการเชิงแข่งขันในสนามการค้าระหว่างประเทศ แต่เพียงการอยู่รอดของมนุษย์ชาติ และเพื่อธรรมชาติที่ดีขึ้นอีกต่างหากด้วย
หรือกล่าวสั้นๆเทคโนโลยีสารสนเทศ คือ เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการจัดหา วิเคราะห์ ประมวลจัดการและจัดเก็บ เรียกใช้หรือแลกเปลี่ยน และเผยแพร่สารสนเทศ ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบของรูปแบบของรูปเสียง ตัวอักษร หรือภาพเคลื่อนไหว รวมไปถึงการนำเสนอสารสนเทศและข้อมูลไปปฏิบัติตามเนื้อหาสารสนเทศนั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการใช้ การจัดหา วิเคราะห์ ประมวล และจัดการกับข่าวสารข้อมูลจำนวนมหาศาล จึงขาดเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ไม่ได้เลย ส่วนการแสวงหาและแลกเปลี่ยน ข้อมูลข่าวสาร อย่างรวดเร็ว ทันเวลา ประหยัดค่าใช้จ่าย และและมีประสิทธิภาพก็จำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีโทรคมนาคมและท้ายสุดสารสนเทศที่มี จะก่อให้เกิดประโยชน์จากการบริโภค อย่างกว้างขวางตามแต่จะต้องการและอย่างประหยัดที่สุด ก็ต้องอาศัยเทคโนโลยีข้างต้นในการจัดการและการสื่อหรือขนย้ายจากแหล่งข้อมูลสารสนเทศ สู่ผู้บริโภคในทีสุด
ฉะนั้น เทคโนโลยีจึงครอบคลุมถึงหลายๆเทคโนโลยีหลัก อันได้แก่คอมพิวเตอร์ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟแวร์ และฐานข้อมูล โทรคมนาคมซึ่งรวมถึง เทคโนโลยีระบบสื่อสารมวลชน ทั้งระบบแบบมีสายและไร้สาย รวมถึงเทคโนโลยีด้านอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆอาทิ เทคโนโลยี โทรทัศน์ความคมชัดสูง ดาวเทียมคมนาคม เส้นใยแก้วนำแสง สารกกึ่งนำตัว ปัญญาประดิษฐ์ อุปกรณ์อัตโนมัติสำนักงาน อุปกรณ์อัตโนมัติในบ้าน อุปกรณ์อัตโนมัติในโรงงานเหล่านี้เป็นต้น
ซึ่งกระบวนการผลิต การเก็บ และถ่ายทอดสารสนเทศ อาศัยการใช้วัสดุและพลังงานน้อยมาก และมีผลเสียต่อภาวะแวดล้อมหรือมีเพียงเล็กน้อย และไม่มีผลเสียต่อภาวะแวดล้อมหรือมีเพียงเล็กน้อยมาก ยิ่งกว่านั้นสารสนเทศจะสามารถช่วยกิจกรรมการผลิตและบริการต่างๆเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เช่นสามารถช่วยให้การผลิตทางอุตสหกรรมใช้วัตถุดิบ และพลังงานน้อยลง มีมลภาวะน้อยลง แต่สินค้ามีคุณภาพดีขี้นคงทนมากขึ้น ปัญหาวิกฤติทางจราจรในบางด้านก้อสามารถผ่อนปรนได้ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่นในการช่วยติดต่อสื่อสารทางธุรกิจต่างๆโดยไม่จำเป็นต้องเดินทางด้วยตนเองดังเช่นแต่ก่อน จึงอาจจะกล่าวได้ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศจะมีส่วนอย่างมาก ในการนำสังคม สู่วิวัฒนาการอีดระดับหนึ่ง ที่อาจเรียกได้ว่าเป็น สังคมสารสนเทศ อันเป็นสังคมทีพึงปรารถนาละยั่งยืนยิ่งขึ้น
นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าสังคมต่างๆในโลก ต่างจะต้องก้าวสู้สังคมสารสนเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่เร็วก็ช้า และนั่นหมายความว่าสังคมจะต้องพึ่งพาเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างแน่นอน ไม่ว่าเราจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม ไม่แค่เพียงสร้างขีดความสามารถในการเชิงแข่งขันในสนามการค้าระหว่างประเทศ แต่เพียงการอยู่รอดของมนุษย์ชาติ และเพื่อธรรมชาติที่ดีขึ้นอีกต่างหากด้วย
หรือกล่าวสั้นๆเทคโนโลยีสารสนเทศ คือ เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการจัดหา วิเคราะห์ ประมวลจัดการและจัดเก็บ เรียกใช้หรือแลกเปลี่ยน และเผยแพร่สารสนเทศ ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบของรูปแบบของรูปเสียง ตัวอักษร หรือภาพเคลื่อนไหว รวมไปถึงการนำเสนอสารสนเทศและข้อมูลไปปฏิบัติตามเนื้อหาสารสนเทศนั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการใช้ การจัดหา วิเคราะห์ ประมวล และจัดการกับข่าวสารข้อมูลจำนวนมหาศาล จึงขาดเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ไม่ได้เลย ส่วนการแสวงหาและแลกเปลี่ยน ข้อมูลข่าวสาร อย่างรวดเร็ว ทันเวลา ประหยัดค่าใช้จ่าย และและมีประสิทธิภาพก็จำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีโทรคมนาคมและท้ายสุดสารสนเทศที่มี จะก่อให้เกิดประโยชน์จากการบริโภค อย่างกว้างขวางตามแต่จะต้องการและอย่างประหยัดที่สุด ก็ต้องอาศัยเทคโนโลยีข้างต้นในการจัดการและการสื่อหรือขนย้ายจากแหล่งข้อมูลสารสนเทศ สู่ผู้บริโภคในทีสุด
ฉะนั้น เทคโนโลยีจึงครอบคลุมถึงหลายๆเทคโนโลยีหลัก อันได้แก่คอมพิวเตอร์ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟแวร์ และฐานข้อมูล โทรคมนาคมซึ่งรวมถึง เทคโนโลยีระบบสื่อสารมวลชน ทั้งระบบแบบมีสายและไร้สาย รวมถึงเทคโนโลยีด้านอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆอาทิ เทคโนโลยี โทรทัศน์ความคมชัดสูง ดาวเทียมคมนาคม เส้นใยแก้วนำแสง สารกกึ่งนำตัว ปัญญาประดิษฐ์ อุปกรณ์อัตโนมัติสำนักงาน อุปกรณ์อัตโนมัติในบ้าน อุปกรณ์อัตโนมัติในโรงงานเหล่านี้เป็นต้น
นอกจากการเป็นเทคโนโลยีที่ไม่ทำลายธรรมชาติหรือสร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมแล้วคุณสมบัติโดดเด่นอื่นๆที่ทำให้มันกลายเป็นเทคโนโลยี ยุทธศาสตร์สำคัญแห่งยุคปัจจุบันและในอนาคตก็คือ ความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพและสมรรถในเกือบทุกๆกจิกรรม อาทิโดย
1.การลดต้นทุนหรือค่าใช้จ่าย
2.การเพิ่มคุณภาพของงาน
3.การสร้างกระบวนการหรือกรรมวิธีใหม่ๆ
4.การสร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆขึ้น
2.การเพิ่มคุณภาพของงาน
3.การสร้างกระบวนการหรือกรรมวิธีใหม่ๆ
4.การสร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆขึ้น
โอกาสและขอบเขตการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้จึงมีหลากหลายในเกือบทุกกิจกรรมทั้งการการปกครอง การบริการสังคม การผลิตทั้งภาคเกษตร อุตสหกรรม และบริการรวมไปถึงการค้าภายในและระหว่างประเทศอีกด้วย
ผลประโยชน์ต่างๆจากการประยุกต์ใช้ของเทคโนโลยีดังกล่าว ล้วนเกิดจากคุณสมบัติเศษหลายๆประการของเทคโนโลยีกลุ่มนี้ อันสืบเนื่องจากการพัฒนาของ เทคโนโลยีที่มีอัตราสูงและอย่างต่อเนื่องตลาดหลายทศวรรษที่ผ่านมาวิวัฒนาการเทคโนโลยีนี้ส่งผลให้
ผลประโยชน์ต่างๆจากการประยุกต์ใช้ของเทคโนโลยีดังกล่าว ล้วนเกิดจากคุณสมบัติเศษหลายๆประการของเทคโนโลยีกลุ่มนี้ อันสืบเนื่องจากการพัฒนาของ เทคโนโลยีที่มีอัตราสูงและอย่างต่อเนื่องตลาดหลายทศวรรษที่ผ่านมาวิวัฒนาการเทคโนโลยีนี้ส่งผลให้
1.ราคาของฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ รวมทั้งค่าบริการ สำหรับการเก็บ การประมวลผล และการแลกเปลี่ยนเผยแพร่สารสนเทศมีการลดลงอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว
2.ทำให้สามารถนำพาอุปกรณ์ต่างๆทั้งคอมพิวเตอร์และ โทรคมนาคมติดตามตัวได้เนื่องจากได้มีพัฒนาการย่อส่วนของชิ้นส่วนและพัฒนาการการสื่อสารระบบไร้สาย
3.ประการท้าย ที่จัดว่าสำคัญที่สุดก็ว่าได้คือ ทำให้เทคโนโลยีต่างๆเช่น เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการสื่อสารมุ่งเข้าสู่จุดที่ใกล้เคียงกันประเทศอุตสาหกรรมรมในโลกได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยียุทธศาสตร์กลุ่มนี้ จึงให้ความสำคัญของเทคโนโลยีนี้มากกว่าเทคโนโลยีอื่นๆที่จัดเป็นเทคโนโลยียุทธศาสตร์สำคัญอีกหลายกลุ่ม ดังเช่นกลุ่มประเทศได้ศึกษาเปรียบเทียบ ศักยภาพของเทคโนโลยีไฮเทศ5กลุ่มสำคัญในปัจจุบัน คือเทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีวัสดุใหม่ เทคโนโลยีอวกาศ เทศโนโลยีนิวเคลียร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศในประเด็นผลกระทบสำคัญ5ประเด็นได้แก่ 1.การสร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ , 2.การปรับปรุงกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์และบริการ,3.การยอมรับจากสังคม ,4.การนำไปใช้ประยุกต์ในภาค/สาขาอื่น,5.การสร้างงานในทศวรรษปี1990ปรากฏว่าเทคโนโลยีสารสนเทศได้รับการยอมรับการยอมรับในศักยภาพสูงสุดใน ทุกๆประเด็น
2.ทำให้สามารถนำพาอุปกรณ์ต่างๆทั้งคอมพิวเตอร์และ โทรคมนาคมติดตามตัวได้เนื่องจากได้มีพัฒนาการย่อส่วนของชิ้นส่วนและพัฒนาการการสื่อสารระบบไร้สาย
3.ประการท้าย ที่จัดว่าสำคัญที่สุดก็ว่าได้คือ ทำให้เทคโนโลยีต่างๆเช่น เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการสื่อสารมุ่งเข้าสู่จุดที่ใกล้เคียงกันประเทศอุตสาหกรรมรมในโลกได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยียุทธศาสตร์กลุ่มนี้ จึงให้ความสำคัญของเทคโนโลยีนี้มากกว่าเทคโนโลยีอื่นๆที่จัดเป็นเทคโนโลยียุทธศาสตร์สำคัญอีกหลายกลุ่ม ดังเช่นกลุ่มประเทศได้ศึกษาเปรียบเทียบ ศักยภาพของเทคโนโลยีไฮเทศ5กลุ่มสำคัญในปัจจุบัน คือเทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีวัสดุใหม่ เทคโนโลยีอวกาศ เทศโนโลยีนิวเคลียร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศในประเด็นผลกระทบสำคัญ5ประเด็นได้แก่ 1.การสร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ , 2.การปรับปรุงกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์และบริการ,3.การยอมรับจากสังคม ,4.การนำไปใช้ประยุกต์ในภาค/สาขาอื่น,5.การสร้างงานในทศวรรษปี1990ปรากฏว่าเทคโนโลยีสารสนเทศได้รับการยอมรับการยอมรับในศักยภาพสูงสุดใน ทุกๆประเด็น
3.เทคโนโลยีสารสนเทศกับการพัฒนาสังคม
แต่ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในด้านการพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านการจัดให้บริการสังคมพื้นฐานในกรบริหารประเทศและในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
เทคโนโลยีสารสนเทศจะมีผลกระทบต่อสังคมมากน้อยเพียงใดย่อมขึ้นอยู่กับว่ามนุษย์จะเลือกใช้มันอย่างไร ในโลกปัจจุบันแรงผลักดันทางเศรษฐกิจมักจะมีบทบาทสูง ในการกำหนดทิศทางของเทศโนโลยีเป็นที่ทราบกันดีว่าเทคโนโลยีและการสื่อสารในอดีตและปัจจุบันได้เปลี่ยนโฉมไปอย่างมากในอนาคตรกจิบันเทิงจะเป็นอีกประเภทหนึ่งที่จะทำเงินให้แก่ผู้ประกอบการทางด้านการสื่อสารโทรคมนาคม เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีอิทธิพลสูงกับแนวคิดความอ่านของผู้คนในสังคม เพราะเป็นวิถีทางหนึ่งที่ผู้ร่วมบันเทิงและยอมรับว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนั้นและถ่ายทอดความคิดระหว่างบุคคลนั้น
แต่ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในด้านการพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านการจัดให้บริการสังคมพื้นฐานในกรบริหารประเทศและในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
เทคโนโลยีสารสนเทศจะมีผลกระทบต่อสังคมมากน้อยเพียงใดย่อมขึ้นอยู่กับว่ามนุษย์จะเลือกใช้มันอย่างไร ในโลกปัจจุบันแรงผลักดันทางเศรษฐกิจมักจะมีบทบาทสูง ในการกำหนดทิศทางของเทศโนโลยีเป็นที่ทราบกันดีว่าเทคโนโลยีและการสื่อสารในอดีตและปัจจุบันได้เปลี่ยนโฉมไปอย่างมากในอนาคตรกจิบันเทิงจะเป็นอีกประเภทหนึ่งที่จะทำเงินให้แก่ผู้ประกอบการทางด้านการสื่อสารโทรคมนาคม เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีอิทธิพลสูงกับแนวคิดความอ่านของผู้คนในสังคม เพราะเป็นวิถีทางหนึ่งที่ผู้ร่วมบันเทิงและยอมรับว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนั้นและถ่ายทอดความคิดระหว่างบุคคลนั้น
4.สารสนเทศกับบุคคล
การพัฒนาของเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้เกิดความต้องการและการใช้สารสนเทศของบุคคลเพิ่มมากขึ้น สารสนเทศมีการใช้สารสนเทศเพื่อให้เกิดความรู้และความรู้และความเข้าใจในเรื่องที่ตนเกี่ยวข้อง และนำความรู้ความเข้าใจมาตัดสินใจแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง แม่นยำและรวดเร็วทันเวลา
การพัฒนาของเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้เกิดความต้องการและการใช้สารสนเทศของบุคคลเพิ่มมากขึ้น สารสนเทศมีการใช้สารสนเทศเพื่อให้เกิดความรู้และความรู้และความเข้าใจในเรื่องที่ตนเกี่ยวข้อง และนำความรู้ความเข้าใจมาตัดสินใจแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง แม่นยำและรวดเร็วทันเวลา
5.สารสนเทศกับสังคม
5.1 ด้านการศึกษา
การจัดการเรียนการสอนในปัจจุบันมุ้งเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางส่งผลให้สารสนเทศมีความสำคัญต่อการเรียนการสอนทุกระดับการศึกษาเพิ่มให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อศึกษาค้นคว้าองค์ความรู้ใหม่ๆ
5.2 ด้านสังคม
สารสนเทศช่วยพัฒนาสติปัญญาของมนุษย์ช่วยพัฒนาบุคคลให้อยู่กับส่วนร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขและสารสนเทศช่วยให้ตัดสินใจเร็วขึ้นเกี่ยวกับการใช้ชีวิตการประกอบอาชีพแก้ไขปัญหาชีวิตได้สารสนเทศช่วยขยายโลกได้รับรู้กว้างขวางมากขึ้นช่วยลดการขัดแย้งทำให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้
5.3 ด้านเศรษฐกิจ
สารสนเทศสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ที่เรียกว่า เศรษฐกิจบนฐานความรู้สารสนเทศด้านธุรกิจการค้าจึงถือว่าเป็นทุนการผลิตที่สำคัญในการแข่งขันเพราะสารสนเทศช่วยให้ประหยัดเวลาในการผลิตลดขั้นตอนลองผิดลองลองถูกพัฒนาภัณฑ์ใหม่ๆได้ตามความต้องการตลาด
5.4 ด้านวัฒนธรรม
สารสนเทศเป็นรากฐานที่จำเป็นสำหรับความก้าวหน้าขององค์กรของอารยธรรมสารสนเทศช่วยสืบทอด ค่านิยมทัศนคติ ศิลปวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์อันดีงามของชาติ
6.บทบาทเทศโนโลยีกับการศึกษา
ขณะนี้เกือบทุกประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการพัฒนาคุณภาพประชาชนโดยเน้นที่การศึกษาเช่น ประเทศสหรัฐอเมริกากำหนดนโยบายว่าในปี2000ทุกโรงเรียนจะต้องมีคอมพิวเตอร์อย่างน้อยหนึ่งเครื่องต่อนักเรียนห้าและทุกห้องเรียนต้องมีคอมพิวเตอร์ที่ต่ออินเตอร์เน็ตอย่างน้อยเครื่องหนึ่งต่อนักเรียนห้าคนคอมพิวเตอร์ต้องต่ออินเตอร์เน็ตโดยเน้นเรื่องการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้เป็นระบบกลางที่มีราคาถูกเพื่อการส่งเสริมการเรียนรู้ของประชาชนแหล่งการเรียนรู้ให้ศึกษาค้นคว้า มีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อส่งทอดความรู้ มีเครือข่ายคอมพิวเตอร์ให้เข้าถึงความรู้ และรู้จักวิธีแสวงหาความรู้ เขาก็จะเป็นผู้เรียนรู้ด้วยตนเองตลอดชีวิต ความคิดนี้ได้ก้าวไปอีกขั้นหนึ่งสู่ความคิดที่ว่า ถ้าช่วยกันทำให้ทุกส่วนของสังคมมีส่วนร่วมสนับสนุน สังคมก็จะเป็น สังคมแห่งการเรียนรู้เพราะทุกฝ่ายเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับไปพร้อมกัน ความรู้แห่งการเรียนรู้เริ่มเป็นที่กล่าวถึงและยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศอย่างยิ่ง
สำหรับประเทศไทยได้ระบุในแผนเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่10(พ.ศ.2550-2554)เป็นแผนที่ต่อเนื่องมาจากแผน ฉบับที่9เน้นคนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนามีหลักการสำคัญคือ เป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาที่เน้นเป้าหมายเชิงคุณภาพ และบริบทการเปลี่ยนแปลงการขยายโอกาสชุมชน/บุคคลสู่ความรู้และบริการพื้นฐานของรัฐ เป็นแผนภาคีร่วมพัฒนาเน้นเป้าหมายสู่สังคมที่มีความสูขอย่างยั่งยืน และเชื่อมโยงแผนชุมชนสู่แผนชาติ
ในปัจจุบันประเทศต่างๆร่วมทั้งประเทศได้นำเอาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อประโยชน์ต่อการศึกษาเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากคุณลักษณะที่เอื้อต่อการศึกษา ทำให้เทคโนโลยีสารสนเทสมีบทบาทสำคัญต่อการส่งเสริมการเรียนรู้ของประชาชนคนไทยหลายมิติ
เทคโนโลยีลดความเหลื่อมล้ำของโอกาสทางการศึกษาซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการตอบนโยบายการศึกษาที่เป็น การศึกษาเพื่อประชาชนทุกคน อันเป็นการสร้างความเท่าเทียบทางสังคมโดยเฉพาะอย่างยิ่งความเท่าเทียมทางการศึกษา เช่น การติดตั้งจานดาวเทียมในโรงเรียนในชนบทห่างไกลเพื่อให้นักเรียนได้รับโอกาสในการศึกษาที่เท่าเทียมกับนักเรียนกับในพื้นที่อื่นๆ
เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพทางการศึกษา คือกล่าวถึงในปัจจุบันเป็นผลสืบเนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น การผลิตสื่อการศึกษาในรูปแบบซีดีคอมช่วยให้นักเรียนที่เรียนรู้ช้าได้มีโอกาสเรียนรู้ตามศักยภาพของแต่ละคนสื่อในปัจจุบันมีหลากหลายโดยการนำเสนอด้วยเสียง ข้อความ ภาพ และภาพเคลื่อนไหว ซึ่งเอื้อต่อการเรียนรู้และกระตุ้นความสนใจการศึกษาของผู้เรียนทุกวัย
เทคโนโลยีสารสนเทศสนับสนุนต่อการอบรม การประชุมการติดต่อสื่อสาร เช่น การอบรมทางไกล การประชุมทางกล การประชุมผ่านอินเตอร์เน็ตซึ่งทำให้การฝึกอบรมประหยัดเวลาและงบประมาณ โดยไม่มีข้อจำกัดด้านสถานที่ บุคลากรและเวลา
ดังนั้นสารสนเทศเป็นปัจจัยพื้นฐานที่มีบทบาทต่อการใช้ชีวิตในสังคมโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอยู่ตลาดเวลาทั้งในระดับสังคม และระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการนำมาใช้ในรูปแบบเทคโนโลยีสารสนเทศจึงทำให้มีผลต่อการดำรงชีวิต วิถีชีวิตของมนุษย์ในสังคม ทั้งด้านความเป็นอยู่ การศึกษา ธุรกิจอุตสาหกรรม และการพัฒนา
ขณะนี้เกือบทุกประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการพัฒนาคุณภาพประชาชนโดยเน้นที่การศึกษาเช่น ประเทศสหรัฐอเมริกากำหนดนโยบายว่าในปี2000ทุกโรงเรียนจะต้องมีคอมพิวเตอร์อย่างน้อยหนึ่งเครื่องต่อนักเรียนห้าและทุกห้องเรียนต้องมีคอมพิวเตอร์ที่ต่ออินเตอร์เน็ตอย่างน้อยเครื่องหนึ่งต่อนักเรียนห้าคนคอมพิวเตอร์ต้องต่ออินเตอร์เน็ตโดยเน้นเรื่องการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้เป็นระบบกลางที่มีราคาถูกเพื่อการส่งเสริมการเรียนรู้ของประชาชนแหล่งการเรียนรู้ให้ศึกษาค้นคว้า มีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อส่งทอดความรู้ มีเครือข่ายคอมพิวเตอร์ให้เข้าถึงความรู้ และรู้จักวิธีแสวงหาความรู้ เขาก็จะเป็นผู้เรียนรู้ด้วยตนเองตลอดชีวิต ความคิดนี้ได้ก้าวไปอีกขั้นหนึ่งสู่ความคิดที่ว่า ถ้าช่วยกันทำให้ทุกส่วนของสังคมมีส่วนร่วมสนับสนุน สังคมก็จะเป็น สังคมแห่งการเรียนรู้เพราะทุกฝ่ายเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับไปพร้อมกัน ความรู้แห่งการเรียนรู้เริ่มเป็นที่กล่าวถึงและยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศอย่างยิ่ง
สำหรับประเทศไทยได้ระบุในแผนเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่10(พ.ศ.2550-2554)เป็นแผนที่ต่อเนื่องมาจากแผน ฉบับที่9เน้นคนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนามีหลักการสำคัญคือ เป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาที่เน้นเป้าหมายเชิงคุณภาพ และบริบทการเปลี่ยนแปลงการขยายโอกาสชุมชน/บุคคลสู่ความรู้และบริการพื้นฐานของรัฐ เป็นแผนภาคีร่วมพัฒนาเน้นเป้าหมายสู่สังคมที่มีความสูขอย่างยั่งยืน และเชื่อมโยงแผนชุมชนสู่แผนชาติ
ในปัจจุบันประเทศต่างๆร่วมทั้งประเทศได้นำเอาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อประโยชน์ต่อการศึกษาเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากคุณลักษณะที่เอื้อต่อการศึกษา ทำให้เทคโนโลยีสารสนเทสมีบทบาทสำคัญต่อการส่งเสริมการเรียนรู้ของประชาชนคนไทยหลายมิติ
เทคโนโลยีลดความเหลื่อมล้ำของโอกาสทางการศึกษาซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการตอบนโยบายการศึกษาที่เป็น การศึกษาเพื่อประชาชนทุกคน อันเป็นการสร้างความเท่าเทียบทางสังคมโดยเฉพาะอย่างยิ่งความเท่าเทียมทางการศึกษา เช่น การติดตั้งจานดาวเทียมในโรงเรียนในชนบทห่างไกลเพื่อให้นักเรียนได้รับโอกาสในการศึกษาที่เท่าเทียมกับนักเรียนกับในพื้นที่อื่นๆ
เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพทางการศึกษา คือกล่าวถึงในปัจจุบันเป็นผลสืบเนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น การผลิตสื่อการศึกษาในรูปแบบซีดีคอมช่วยให้นักเรียนที่เรียนรู้ช้าได้มีโอกาสเรียนรู้ตามศักยภาพของแต่ละคนสื่อในปัจจุบันมีหลากหลายโดยการนำเสนอด้วยเสียง ข้อความ ภาพ และภาพเคลื่อนไหว ซึ่งเอื้อต่อการเรียนรู้และกระตุ้นความสนใจการศึกษาของผู้เรียนทุกวัย
เทคโนโลยีสารสนเทศสนับสนุนต่อการอบรม การประชุมการติดต่อสื่อสาร เช่น การอบรมทางไกล การประชุมทางกล การประชุมผ่านอินเตอร์เน็ตซึ่งทำให้การฝึกอบรมประหยัดเวลาและงบประมาณ โดยไม่มีข้อจำกัดด้านสถานที่ บุคลากรและเวลา
ดังนั้นสารสนเทศเป็นปัจจัยพื้นฐานที่มีบทบาทต่อการใช้ชีวิตในสังคมโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอยู่ตลาดเวลาทั้งในระดับสังคม และระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการนำมาใช้ในรูปแบบเทคโนโลยีสารสนเทศจึงทำให้มีผลต่อการดำรงชีวิต วิถีชีวิตของมนุษย์ในสังคม ทั้งด้านความเป็นอยู่ การศึกษา ธุรกิจอุตสาหกรรม และการพัฒนา
บรรณานุกรม
ธนู บุญญานุวัตร. (2550). รายวิชาสารสนเทศและการศึกษาค้นคว้า มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา.
สืบค้น 12 กันยายน 2550, จาก http://tanoo.wordpress.com/
พงศักดิ์ ผกามาศ. (2553). ระบบไอซีทีและการจัดการยุคใหม่ ( ICT System and Modern Management).
กรุงเทพฯ : วิตตี้กรุ๊ป.
พนม พงษ์ไพบูลย์. (2543). บันทึกปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่สาม: สังคมแห่งการเรียนรู้. สืบค้น
เมื่อ 11 ตุลาคม 2553, จาก http://www.moe.go.th/web-panom/article-panom/
book-panom03.htm
ไพรัช ธัชยพงษ์ และ พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์. เทคโนโลยีการศึกษา. กรุงเทพฯ : สำ�นักงานคณะกรรมการการ
ศึกษาแห่งชาติ. 2541.
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิรา สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2546). เอกสารการสอนชุดวิชา
คอมพิวเตอร์เบื้องต้น หน่วยที่ 1-7. (พิมพ์ครั้งที่ 9). นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
สานิตย์ กายาผาด, ไชยา ภาวบุตร และสุรศิลป์ มูลสิน. (2542). เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อชีวิต: โครงการ
พัฒนาสื่อสารการศึกษาเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 2).
กรุงเทพฯ : เธิร์ดเวฟ เอ็ดดูเคชั่น.
D’Costa, Anthony P. (2006). The New Economy in Development: ICT Challenges and
Opportunities. India: Palgrave MacMillan, 2006. ใน พงศักดิ์ ผกามาศ. (2553). ระบบไอ
ซีทีและการจัดการยุคใหม่ (ICT System and Modern Management). กรุงเทพฯ : วิตตี้กรุ๊ป.
C, Sawyewr & Huchison, Sara. (2000). Computers Communications and Information. (7th
edition). Boston : McGraw-Hill. ใน พงศักดิ์ ผกามาศ. (2553). ระบบไอซีทีและการจัดการ
ยุคใหม่ (ICT System and Modern Management). กรุงเทพฯ : วิตตี้กรุ๊ป.





ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น